พอถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงงานของ Adi และ Rudolf ถูกทหารเข้าแทรกแซง และมีคำสั่งให้ผลิตรองเท้าบูททหารแทน ส่วน Rudolf ถูกเรียกตัวกลับเข้ากองทัพให้ร่วมรบในสงคราม 5. พอจบสงคราม เกิดความบาดหมางขึ้นระหว่างพี่น้อง Adi และ Rudolf ทั้งคู่มีปากเสียงกันรุนแรงโดยไม่มีใครทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ Rudolf ตัดสินใจแยกตัวออกจากบริษัทและมาสร้างแบรนด์รองเท้ากีฬาของตัวเอง แบรนด์นั้นคือ Puma ส่วน Adi ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อแบรนด์โดยใช้ชื่อสมาสกับนามสกุลเป็น Adidas และเปลี่ยนเครื่องหมายการค้าจากแถบสี 2 แถบ เป็น 3 แถบ 6. นับแต่นั้นมา Adidas กับ Puma เป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่ต่อสู้กันอย่างดุเดือดมาโดยตลอด และพี่น้องก็ยังคงไม่หันหน้ามาคุยกันจนกระทั่ง Rudolf เสียชีวิตลงในวัย 76 ปี กิจการ Puma ถูกเปลี่ยนมือบริหารอยู่หลายครั้ง ระหว่างนี้ก็ยังคงขับเคี่ยวกับ Adidas อย่างไม่ลดละ จนเกิดเหตุการณ์ฟ้องร้องกันเรื่องลิขสิทธิ์อยู่หลายครา 7. ความบาดหมางของทั้งสองแบรนด์พี่น้องเริ่มบรรเทาเบาบางลงเมื่อปี 2009 CEO และผู้ถือหุ้นจากทั้ง 2 บริษัทจัดกิจกรรมเตะบอลกระชับมิตร เป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นความสัมพันธ์สองพี่น้องผู้ให้กำเนิดแบรนด์รองเท้ากีฬาที่โด่งดังระดับโลก 8.
WorkpointTODAY - ไนกี้ VS อาดิดาส ศึกแย่งสปอนเซอร์ฟุตบอลยูโร 2020
7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (84 ล้านบาท) ในปี 2016 นั่นอาจเป็นเพราะว่า แม้ว่ายอดขายเสื้อของบาร์เซโลนาของ Nike จะคว้าที่หนึ่ง แต่รองลงไปนั้นเป็นทีมท็อปแต่ละลีกชั้นนำที่สังกัด Adidas แทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ ยูเวนตุส Adidas ตีตื้นขึ้นมาเป็น 1-2 5.
1936 และเจสซี่ โอเวนส์ ก็ได้เหรียญทองถึง 4 เหรียญในการแข่งขันในครั้งนั้น จนทำให้รองเท้า Dassler มียอดขายมากกว่า สองแสนคู่ต่อปี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งสองพี่น้องก็มีเรื่องหมางใจกัน กิจการของพวกเขาถูกแทรกแซงโดยทหาร และถูกสั่งให้ผลิตรองเท้าให้กับทหาร รูดิ พี่ชาย ถูกเรียกกลับไปประจำการที่กองทัพ เมื่อสงครามยุติลงในปี ค. 1948 ความสัมพันธ์ของสองพี่น้องก็ถึงจุดแตกหัก รูดิแยกตัวออกไปตั้งโรงงานผลตรองเท้าและสร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมาชื่อ « Ruda » และเปลี่ยนมาเป็น « Puma » ในภายหลัง ส่วนแอดดิก็เปลี่ยนชื่อแบรนด์จาก Dassler ให้กลายมาเป็น « Adidas » ซึ่งมาจากชื่อและนามสกุลของเขานั่นเอง ทั้งสองแบรนด์ Puma และ Adidas แข่งขันกันอย่างดุเดือดยาวนานนับ 60 ปี จนกระทั่งปี 2009 สงครามระหว่างทั้งสองแบรนด์ก็สิ้นสุดลงเมื่อทั้งคู่หันมาจับมือกันในการแข่งขันกีฬาขององค์กร One Day Peace ถ้ามองย้อนกลับไปเมื่อปี ค. 1949 ซึ่งถือว่าเป็นยุคแรกๆ ที่มีการผลิตรองเท้าของอดิดาส จะสังเกตุเห็นว่ารองเท้าของแอดดินั้น มีลักษณะเด่นไม่เหมือนใคร เนื่องจากพื้นของรองเท้านั้นมีลักษณะเป็นเดือยแหลมยื่นออกมาคล้ายๆ กับตะปู จนกลายเป็นจุดเด่นของรองเท้าอาดิดาสเลยก็ว่าได้ Mark Spitz นักกีฬาว่ายน้ำชาวอเมริกันที่กำลังชูรองเท้า Adidas รุ่น Gazelles ก่อนขึ้นรับเหรียญรางวัล ในปี ค.
© สนับสนุนโดย เดลินิวส์ เมื่อวันที่ 9 ก. ย. นายประภัตร โพธสุธน รมช. เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยสถานการณ์ความคืบหน้าการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน (LSDV) 5 ล้านโด๊ส ที่นำเข้ามาว่า วัคซีนลอตแรกกว่า 1 ล้านโด๊ส มาถึงประเทศไทยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 3 ก. ย.
สินทรัพย์ต่อสินทรัพย์ Nike มีสินทรัพย์ในปี 2016 อยู่ที่ 2. 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วน Adidas อยู่ที่ 1. 7 หมือ่ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สินทรัพย์ของทั้ง 2 แบรนด์เป็นการรวมแบรนด์ย่อยอื่น ๆ เข้ามาด้วยนะ เช่น Adidas ที่ประกาศซื้อ Reebok มาในปี 2005 หรือ Nike ที่มีแบรนด์ย่อยอย่าง Converse รองเท้าวัยรุ่นชื่อดังในบ้านเรา Nike ทิ้งห่างออกไป 4-1 แล้ว... 7 / 7 7.
Adidas เคยชนะคดีฟ้องร้องกับ Payless ในกรณีละเมิดลิขสิทธิ์ได้เงินไป 305 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 11, 093 ล้านบาท 21. Adidas รุ่น Stan Smith ได้รับความนิยมมากกว่ารุ่น Superstar โดยการันตีจากยอดขาย 22. Michael Jordan เคยเกือบจะได้เซ็นสัญญากับ Adidas เพราะเขาเคยให้สัมภาษณ์ว่าชอบใส่อดิดาสมาตั้งแต่มัธยมปลาย แต่ดันกลายเป็น Nike ที่ได้ตัวไป 23. ในช่วงปี 90s Adidas Superstar ได้รับความนิยมในการใส่เล่นสเก็ตบอร์ดเป็นอย่างมาก ต่อมาอดิดาสจึงพัฒนารองเท้ารุ่น Adidas Sketeboarding. 24. Mark Spitz นักกีฬาว่ายน้ำชื่อดังผู้กวาดเหรียญทองในโอลิมปิคปี 1972 ได้สร้างปรากฎการณ์บางอย่างให้ Adidas ก่อนที่เขาจะขึ้นไปรับเหรียญในการแข่งขัน Horst Dassler ลูกชายของ Adi Dassler ได้ขอให้เขาสวมรองเท้าของอดิดาสขึ้นไปรับเหรียญด้วย Mark Spitz ไม่ยอมสวม แต่กลับหยิบรองเท้าอดิดาสชูขึ้นบนเวที โดยให้เหตุผลกับ Horst Dassler ว่า ถ้าให้สวมคนจะมองเห็นรองเท้าไม่ชัด และกล้องคงไม่จับภาพมาที่เท้าเขาแน่นอน ส่วนรองเท้ารุ่นนั้นคือ Adidas Gazelles 25. รองเท้าแตะ Adidas ถูกผลิตขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ เพื่อให้นักฟุตบอลเยอรมันใส่กันลื่นล้มในห้องน้ำ 26.
แบรนด์อุปกรณ์กีฬา แบรนด์แรกเลยที่เราจะแนะนำกัน นั่นก็คือ Nike มีประวัติมายาวนาน ที่มีการผลิตอุปกรณ์กีฬา ที่เป็นทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกา เปิดให้บริการในครั้งแรก เมื่อปีค. ศ. 1964 โดย Bill Bowerman เป็นโค้ชนักวิ่งอยู่ในมหาวิทยาลัย ออเรกอน และ Phill Knight เป็นนักวิ่งที่มีอนาคตไกล ทั้งสองได้ทำการ ร่วมกันลงทุน เพื่อดำเนินธุรกิจ ในการนำเข้ารองเท้า จากประเทศญี่ปุ่น เข้ามาในประเทศอเมริกา ก่อนจะเกิดไอเดียเรื่อง การพัฒนารองเท้า เกี่ยวกับการวิ่ง และผลิตออกมาเป็นของตนเอง แบรนด์อุปกรณ์กีฬา ที่นิยมอย่างNike เริ่มต้นทำรองเท้าวิ่งได้อย่างไร? โดยเอาความรู้ด้านโค้ชนักวิ่ง และความรู้เรื่องการวิ่ง มาใช้และทำการพัฒนาจนสำเร็จ ก่อที่ต่อมาทั้ง 2 คนก็ตัดสินใจ ที่จะเปิดกิจการค้าปลีก เกี่ยวกับรองเท้าขึ้น ในปีค. 1966 และในช่วงปีค. 1971 ได้ทำการผลิตรองเท้า และใช้ยี่ห้อแบรนด์ กีฬาที่ชื่อว่า Swoosh แบรนด์กีฬา ทั้งหมด ก่อนในปีค. 1978 จะได้เปลี่ยนชื่อ และใช้โลโก้แบรนด์กีฬา ที่ชื่อว่า Nike ที่เป็นเทพีแห่งชัยชนะ ชื่อว่าเทพปกรณัมกรีกนั่นเอง และต่อมาในปีค. 1996 ยังเข้าควบรวมกิจการ ของบริษัท Converse และ Hurley ให้มาเป็นสาขาย่อยของตนเอง และได้พัฒนาการผลิตอุปกรณ์กีฬาอื่นๆ อีกมากมาย อุปกรณ์กีฬาอะไรบ้าง ที่แบรนด์Nike นี้ผลิตมาขาย?