กฎของเกย์-ลูสแซก กล่าวว่า " ความดันของก๊าซใด ๆ จะแปรผันโดยตรงกับอุณหภูมิ เมื่อปริมาตรของก๊าซคงท ี่" กฎของอาโวกาโดร กล่าวว่า "ภายใต้สภาวะที่อุณหภูมิและความดันคงที่ ก๊าซที่มีปริมาตรเท่ากันจะมีจำนวนโมเลกุลเท่ากัน" หรืออาจกล่าวได้ว่า "ที่อุณหภูมิและความดันคงที่ ปริมาตรของก๊าซใด ๆ จะแปรผันโดยตรงกับจำนวนโมลของก๊าซนั้น ๆ " 1. กฎของเกย์ลุสแซก ในปี พ. ศ. 2531 โซเซฟ-ลุย-เก-ลูซัก ได้ทดลองวัดปริมาตรของก๊าซที่ทำปฏิกิริยาพอดีกันและปริมาตรของก๊าซที่ได้จากปฏิกิริยา ณ อุณหภมิและความดันเดียวกัน แล้วสรุปเป็นกฎการรวมปริมาตรของก๊าซว่า "ในปฏิกิริยาเคมีที่เป็นก๊าซ อัตราส่วนโดยปริมาตรของก๊าซที่ทำปฏิกิริยาพอดีกัน และปริมาตรของก๊าซที่เกิดจากปฏิกิริยาที่อุณหภูมิและความดันเดียวกัน จะเป็นเลขจำนวนเต็มลงตัวน้อย ๆ" 2. กฎอาโวกาโดร ในปี พ. 2354 อาเมเดโอ อาโวกาโดร ได้ศึกษากฎของเกย์-ลูสแซกและอธิบายว่าการที่อัตราส่วนโดยปริมาตรของก๊าซที่เข้าทำปฎิกิริยาและที่ได้จากปฏิกิริยาเป็นเลขจำนวนเต็มน้อยๆ คงเป็นเพราะปริมาตรของก๊าซมีความสัมพันธ์กับจำนวนอนุภาคที่รวมตัวกันเป็นสารประกอบ อาโวกาโดรจึงเสนอสมสุติฐานว่า "ที่อุณหภูมิและความดันเดียวกัน ก๊าซทุกชนิดที่มีปริมาตรเท่ากันจะมีจำนวนโมเลกุลเท่ากัน"เช่น ปฏิกิริยาระหว่างก๊าซไฮโดรเจนกับก๊าซออกซิเจนจนเกิดเป็นไอน้ำ แหล่งที่มา
3145 จูลต่อ (โมล เคลวิน)) นอกเหนือจากกฎที่ได้อธิบายไปแล้ว ก็ยังมี กฎการแพร่ของแกรห์ม (หรือบางทีเขียนเป็น เกรแฮม) ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส และ กฎความดันย่อยของดาลตัน ซึ่งสามารถนำมาใช้อธิบายพฤติกรรมของแก๊สอุดมคติได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดี แก๊สอุดมคติอยู่ในสภาวะที่สมมติขึ้นมา กฎเหล่านี้จึงไม่สามารถอธิบายพฤติกรรมที่แท้จริงของแก๊สปกติได้ อ้างอิง [ แก้] Castka, Joseph F. ; Metcalfe, H. Clark; Davis, Raymond E. ; Williams, John E. (2002). Modern Chemistry. Holt, Rinehart and Winston. ISBN 0-03-056537-5. CS1 maint: multiple names: authors list ( link) Guch, Ian (2003). The Complete Idiot's Guide to Chemistry. Alpha, Penguin Group Inc. ISBN 1-59257-101-8. Zumdahl, Steven S (1998). Chemical Principles. Houghton Mifflin Company. ISBN 0-395-83995-5.
cm3) 1 5. 00 760 3. 80 x 103 2 10. 00 380 3 15. 00 253 4 20. 00 191 3. 82 x 103 5 25. 00 151 3. 78 x 103 6 30. 00 127 3. 81 x 103 7 35. 00 109 8 40. 00 95 9 45. 00 84 จากผลการทดลองในตารางพบว่า ผลคูณของความดันกับปริมาตร ( PV) ของแก๊สในการทดลองแต่ละครั้งมีค่าค่อนข้างคงที่ และเมื่อเขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความดันกับปริมาตรของแก๊สจะได้ดังรูปต่อไปนี้ จากข้อมูลในตารางและจากกราฟพบว่าขณะที่อุณหภูมิคงที่ ถ้าปริมาตรของแก๊สเพิ่มขึ้นจะทำให้ความดันของแก๊สลดลง และเมื่อปริมาตรของแก๊สลดลง ความดันของแก๊สจะเพิ่มขึ้น รอเบิร์ต บอยล์ ( Robert Bolye) นักเคมีชาวอังกฤษ ได้ศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนปริมาตรของแก๊สในปี ค. ศ. 1662 ( พ. ศ. 2205) และสรุปเป็นกฎเรียกว่า " กฎของบอยล์ " ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้ เมื่ออุณหภูมิและมวลของแก๊สคงที่ ปริมาตรของแก๊สจะแปรผกผันกับความดัน ถ้าให้ P แทนความดันของแก๊ส V แทนปริมาตรของแก๊ส ความสัมพันธ์ตามกฎของบอยล์เขียนแสดงความสัมพันธ์ได้ดังนี้ V a = k ค่าคงที่ k ในสมการนี้ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ ปริมาตร มวลของแก๊ส และลักษณะเฉพาะของแก๊สแต่ละชนิด และจากผลการทดลองพบว่าผลคูณระหว่างปริมาตและความดันของแก๊สมีค่าคงที่เสมอ ดังนั้นถ้าให้ P1 และ V1 เป็นความดันและปริมาตรที่สภาวะที่ 1 จะได้ว่า P1V1 = k ……….
4 L ตัวอย่างพฤติกรรมแก๊สที่เป็นไปตามกฏของอาโวกาโดรเช่น แก๊ส ฮีเลียม(He) 1 โมล บรรจุในกระบอกสูบ เมื่อความดันภายนอกเท่ากับ 1 atm ที่อุณหภูมิ 273 K เราจะได้ปริมาตรที่แก๊ส He ครอบครองในกระบอกสูบนั้นเท่ากับ 22. 4 L ดังรูป ก แต่เมื่อเพิ่มแก๊ส He เข้าไปอีก 1 โมล รวมเป็น 2 โมล ปริมาตรของ He ในกระบอกสูบก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 44. 8 L หรือ 2 เท่า จากปริมาตรเดิม ดังรูป ข และเมื่อเพิ่มปริมาณของแก๊ส He เข้าไปอีก 1 โมลกลายเป็น 3 โมล ปริมาตรของแก๊ส He ก็จะเป็น 67. 2 L ดังรูป ค จากปรากฏการณ์นี้ ถ้าเรานำค่าไปแทนในสมการ 1 เราจะได้ว่า รูป ก. V = 22. 4 L, n = 1 mol K = 22. 4 L/1mol = 22. 4 L/mol รูป ข. V = 44. 8 L, n = 2 mol K = 44. 8 L/2 mol = 22. 4 L/mol เป็นต้น นั่นหมายความว่า สัดส่วนระหว่างปริมาตรและจำนวนโมลของแก๊ส He มีค่าคงที่ กรณีเช่นเดียวกันกับแก๊สต่างชนิดกัน เมื่อมีจำนวนโมเลกุลหรือจำนวนโมลเท่ากัน ที่สภาวะความดันและอุณหภูมิเดียวกัน ปริมาตรของแก๊สเหล่านั้นจะมีค่าเท่ากันเสมอ ดังตัวอย่างใน รูป ง จ และ ฉ แสดงกระบอกสูบซึ่งบรรจุแก๊ส A, B และ C ตามลำดับ เมื่อแก๊สเหล่านี้มีปริมาณ 1 โมล ความดัน 1 atm ที่อุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส จะได้ปริมาตรของแก๊สเท่ากับ 22.
กฎของอาโวกาโดร ( อังกฤษ: Avogadro's law) เป็น กฎ ที่อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณกับมวลของแก๊ส [1] โดย สารานุกรมบริเตนนิกา ได้อธิบายถึงกฎของอาโวกาโดรไว้ว่า กฎของอาโวกาโดรกล่าวว่า "ที่อุณหภูมิและความดันเดียวกัน แก๊สที่มีปริมาตรเท่ากันจะมีจำนวนอนุภาคเทากัน" [1] รายการอ้างอิง [ แก้] แหล่งข้อมูลอื่น [ แก้] Avogadro's law Archived 2004-11-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน at the University of Fribourg Avogadro's law at the Royal Society of Chemistry
4 ลิตร ดังรูป
กฎของอาโวกาโดร (part 1) - YouTube
จากสูตร P1V1 = P2V2 150 x 10 = 50 x V2 = 1500 / 50 30 ลิตร ตัวอย่างที่ 2 แก๊สชนิดหนึ่งมีความดันเริ่มต้นเท่ากับ 200 mmHg แก๊สชนิดนี้จะมีความดันสุดท้ายเป็นเท่าใดถ้าทำให้แก๊สมีปริมาตรลดลงเป็นครึ่งหนึ่งของปริมาตรเดิมเมื่ออุณหภูมิคงที่ วิธีทำ P1 = 200 mmHg =?