เป็นตุ่มแดงมีหัวสีขาวเหมือนสิวขึ้นบริเวณแขนค่ะ พอบีบออกมาก็เป็นเม็ดเหมือนสิวเเละมีหนอง แต่ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร นอนห้องแอร์ค่ะ พยายามขัดผิวและทาครี... | HD สุขภาพดี เริ่มต้นที่นี่ 4 2 คนเห็นว่าคำถามนี้มีประโยชน์ คุณเห็นว่าคำถามนี้มีประโยชน์หรือไม่ ดูคำถามและคำตอบอื่นที่คล้ายกัน เราใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีที่สุด ได้ที่นี่ เราใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีที่สุด คุณสามารถดูสรุปนโยบายความเป็นส่วนตัวและการใช้คุกกี้ อ่านนโยบายที่นี่
รวมคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับผิวลูกน้อย ที่คุณพ่อคุณแม่คาใจในเรื่องผิวของลูกน้อย Mamaexpert รวมคำตอบไว้ให้หมดแล้ว มาดูกันเลยจ้า... รวมคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับผิวลูกน้อย จากทางบ้าน 1.
สีเป็นตาปลา พื้นผิวสีที่ยังไม่แห้งประปรายไปด้วยรูเล็ก ๆ มีลักษณะเป็นหลุมซิลิโคน ในบางครั้งสามารถมองเห็นพื้นผิวชั้นล่างที่ก้นหลุม สีเป็นตาปลา เช็ดทำความสะอาดคราบไขมันตัวถังไม่ดีพอ มีคราบซิลิโคนปนเปื้อนอยู่บริเวณพื้นผิว ลมที่ออกมาจากเครื่องปั๊มลมมีน้ำหรือน้ำมันปนออกมา หรือเกิดจากสภาพแวดล้อมในการพ่นไม่ดี มีฝุ่นละอองมาก มีลมแรง หรืออาจมีการปนเปื้อนในขั้นตอนการผสมสี เช่น ใช้ภาชนะที่ไม่สะอาดในการผสมสีเป็นต้น เช็ดทำความสะอาดคราบไขมันพื้นผิวที่เป็นหลุมอย่างทั่วถึง ขัดพื้นผิวที่เป็นหลุมจนเรียบ แล้วจึงทำการพ่นสีใหม่อีกครั้ง 5. สีเป็นละออง พบละอองสีเกาะอยู่บนพื้นผิวสีที่เพิ่งพ่นเสร็จและไม่ถูกดูดกลืนลงไป พื้นผิวดูหยาบเนื่องจาก มีอณูละอองสีที่แห้งแล้วเกาะติดอยู่ ใช้ทินเนอร์ที่แห้งเร็วเกินไปทำให้ผิวหน้าปิดเร็วจนละอองสีที่พ่นในเที่ยวถัดไปหรือบริเวณอื่นไม่สามารถซึมเป็นเนื้อเดียวกับฟิล์มสีก่อนหน้าได้ หรืออาจะเกิดจากการผสมสีพ่นข้นเกินไปเนื่องจากเติมทินเนอร์น้อยเกินไป แรงดันลมปืนพ่นสีสูงเกินไป เดินปืนพ่นสีเร็วเกินไปหรือพ่นห่างชิ้นงานเกินไป ใช้หัวพ่นขนาดเล็กเกินไป ในกรณีส่วนใหญ่ การขัดด้วยยาขัดก็เพียงพอแล้ว ในกรณีพิเศษ จำเป็นต้องขัดบาง ๆ ด้วย กระดาษทรายและพ่นสีใหม่ 6.
ตุ่มใสที่เกิดจากการแพ้สัมผัสจากอาหารหรือสารเคมีต่าง ๆ 2.
เป็นผดผื่น เมื่ออากาศร้อน อากาศร้อนลูกมักเป็นผด มีลักษณะเป็นผื่นแดงๆ เป็นุต่มๆ ถ้าเหงื่อออกลูกจะคันมาก จะป้องกันไม่ให้ลูกเป็นผดผื่นร้อนนี้ได้ยังไงคะ (คุณแม่น้องมีน /ปทุมธานี) ตอบ: สำหรับการป้องกันผื่นร้อนหรือผดที่ดีที่สุดก็คือการพยายามให้เด็กเล่นอยู่ในที่อากาศไม่ร้อนอบอ้าวจนเกินไปทั้งนี้เพราะผื่นเกิดจากความร้อน ควรให้เด็กใส่เสื้อบางๆ ถ้าอากาศร้อนมากก็ควรเลือกใส่เสื้อที่ไม่มีคอไม่มีแขน การทาผื่นด้วยยาคาลาไมน์ก็ช่วยให้อาการคันลดลง ส่วนใหญ่ถ้าเด็กได้อยู่ในที่อากาศเย็นสบายผื่นก็มักจะหายไปค่ะ บทความแนะนำเพิ่มเติม 1. ลูกกินนมเท่าไหร่ดี คุณแม่ควรรู้ 2. นมแม่ไม่มีแล้ว …เลือกนมให้ลูกอย่างไรดี 3. นมถั่วเหลืองสำหรับทารก ดีจริงหรือ? เรียบเรียงโดย: Mamaexpert Editorial Team
หูดหงอนไก่ เป็นโรคติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์เช่นกัน จะเห็นเป็นติ่งเนื้อหรือตุ่มเนื้ออ่อนๆ สีชมพูหรือสีเนื้อ ผิวมักขรุขระ อาจมีอาการคันร่วมด้วย แต่มักไม่มีอาการเจ็บ 6. หูดข้าวสุก ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์เช่นกัน ลักษณะคือเป็นตุ่มนูนสีเหลืองหรือสีเนื้อ ผิวเรียบเป็นมันคล้ายไข่มุก ตรงกลางมีรอยบุ๋ม เมื่อกดหรือบีบให้แตก จะมีเนื้อเละ ๆ สีขาวคล้ายข้าวสุกไหลออกมา มักไม่มีอาการเจ็บหรือคัน 7. การแพ้สัมผัสหรือระคายเคืองต่อสารเคมีต่างๆ โดยอาจเกิดเกิดเป็นผื่นที่เป็นตุ่มน้ำใส หรือตุ่มนูนแดงก็ได้ มักมีอาการคันร่วมด้วย หากตุ่มเป็นมานานแล้ว ไม่ขยายขนาดใหญ่ขึ้น ไม่เพิ่มจำนวนมากขึ้น และไม่มีอาการใดๆ ก็อาจเป็น ผื่นนูนพีพีพี ได้ แต่หากเพิ่งเป็นมาไม่นาน ตุ่มมีการเพิ่มจำนวน หรือขยายขนาดขึ้น หรือแตกออกกลายเป็นแผล หรือทำให้มีอาการเจ็บ แสบ คัน ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาค่ะ
ขี้ไคล ขัดไม่ออก แก้อย่างไรดี บริเวณคอ ข้อพับ รักแร้ สะดือ และขาหนีบของลูกเป็นเหมือนขี้ไคล ขัดก็ไม่ออก เป็นสีดำ บางทีเป็นขุยออกมาแต่ไม่หมด เกิดจากอะไรคะ แก้ไขได้อย่างไร(ดารณี ตั้งในธรรม / อุดรธานี) ตอบ: จากลักษณะที่มีสีดำเหมือนขี้ไคลตามข้อพับต่างๆ เป็นการเปลี่ยนแปลงทางผิวหนังที่พบได้ในเด็กที่อ้วนมาก ไม่สามารถขัดออกได้เพราะไม่ใช่ขี้ไคล ลักษณะที่มีสีดำของผิวหนังนี้จะหายไปได้เองเมื่อลดน้ำหนักลง แต่ถ้าลูกของคุณไม่ใช่เด็กอ้วนก็น่าจะพามาพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ 4.
อาบน้ำอย่างไรให้ผิวดี 1. อาบน้ำในอุณหภูมิปกติ ควรปรับอุณหภูมิของน้ำให้เหมาะสม ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป เนื่องจากการอาบน้ำร้อนจะทำให้ผิวแห้ง เกิดผื่นคันได้ง่าย โดย เฉพาะอย่างยิ่ง ควรระวังในผู้ที่มีผิวภูมิแพ้และผู้สูงวัย เพราะผิวจะขาดน้ำง่ายกว่าปกติ เมื่อผิวแห้งจะเกิดผื่นคันที่มีความรุนแรง กว่าคน ทั่วไปได้ง่าย นอกจากนี้การอาบน้ำในอุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยปรับผิวให้นุ่ม ไม่แห้งตึง และยังช่วยปรับสมดุล ระบบหมุนเวียน เลือด ให้ทำงานได้ ดีอีกด้วย 2. ไม่ฟอกสบู่เยอะเกินไป การฟอกสบู่เยอะเกินไป เป็นการขจัดไขมันที่ผิวหนัง ทำให้ผิวแห้งได้ นอกจากนี้ ร่างกายของเรามีแบคทีเรียประจำบ้านที่เรียกว่า Normal Flora มีหน้าที่ปรับสมดุลภูมิคุ้มกันให้ผิวหนังของเราอยู่แล้ว การฟอกสบู่เยอะเกินไป อาจทำให้กลุ่มแบคทีเรีย เหล่านั้นเสีย สมดุล เกิดการติดเชื้อบางชนิดตามมาได้ ดังนั้น ในหนึ่งวัน จึงไม่จำเป็นต้องฟอกสบู่บ่อยๆ แค่วันละ 1-2 ครั้ง ก็เพียงพอแล้ว 3. การสครับผิว จากความเข้าใจเรื่องการขัดผิวบ่อยๆ จะทำให้ผิวขาว เรียบเนียน แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะการขัดผิว บ่อยเกินไป เป็นการทำร้ายผิว เพราะมีการรบกวนการผลัดเซลล์ของผิวหนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในผู้ที่เป็นขนคุด หรือผู้ที่มีผื่นอยู่แล้ว อาจจะทำให้ ผื่นเป็นมากขึ้นได้ นอกจากนี้ สารในสครับมีมากมาย เช่น สารสกัดจากกรดผลไม้ สมุนไพรน้ำหอม หรือสารกันบูด ซึ่งสารเหล่านี้เอง อาจเป็นสาเหตุให้เกิดผื่นแพ้ระคายเคือง หรือ ผื่นแพ้สัมผัสตามมาได้ ดังนั้น จึงไม่ควรขัดผิวมากเกินไป เพียงสัปดาห์ละครั้งก็พอ และ หลังจากขัดผิว ควรบำรุงผิวด้วยมอยซ์เจอไรเซอร์ เสมอ เพื่อคืนความนุ่มชุ่มชื้นให้แก่ผิว 4.
สีเป็นผิวส้ม พื้นผิวสีที่เพิ่งทำเสร็จดูไม่เรียบลื่นและมีลักษณะคล้ายผิวส้ม ทำให้สีดีไม่เงาเท่าที่ควร สีที่พ่นนั้นมีความหนืดสูงเกินไป ทินเนอร์ที่ใช้แห้งเร็วเกินไป อัตราแรงดันลมปืนพ่นสีสูงหรือต่ำเกินไป อุณหภูมิโดยรอบสูงหรือต่ำเกินไป หากเป็นผิวส้มเพียงเล็กน้อย สามารถขัดออกได้ด้วยยาขัด หากเป็นมาก ต้องขัดพื้นผิวออกด้วย กระดาษทรายและพ่นสีใหม่ 7.