4. กำหนดหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่หลายย่านพร้อมกัน (Multiband) เช่น คลื่นความถี่ย่าน 700 MHz กับ 2. 6 GHz, ย่าน 3. 5 GHz กับ 26 GHz หรือ 1800 MHz กับ 28 GHz เป็นต้น 1. 5. ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ทดลอง ทดสอบ 5G ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ คาดว่าจะเป็นย่านสยามสแควร์ เพื่อทดสอบในปี 2562-2563 หวังสร้างความรับรู้ให้กับประชาชนในการที่จะเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยีดังกล่าว นายฐากร กล่าวอีกว่าในปี 2562 ได้กำหนดนโยบายเรียกคืนคลื่นความถี่ฯ ตามประกาศซึ่งได้มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 สำนักงาน กสทช. จะดำเนินการตามประกาศดังกล่าว และจะตั้งคณะทำงานดำเนินการตามประกาศดังกล่าวตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 โดยมีเป้าหมายในการเรียกคืนคือคลื่นความถี่ย่าน 2. 6 GHz ของ อสมท เป็นลำดับแรก พร้อมกำหนดมาตรการเยียวยาคลื่นฯดังกล่าว คาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน และกำหนดการประมูลคลื่นฯ ในเดือน กุมภาพันธ์ 2562 ปัจจุบันคลื่นฯ ย่าน 2. 6 GHz อสมท ถือครองอยู่จำนวน 140 MHz กรมประชาสัมพันธ์ 40 MHz และบางส่วนที่อยู่ที่ กสทช. รวมคลื่นฯ ในย่านนี้อยู่ที่ 190 MHz ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ พิจารณาเรียกคืนคลื่นฯ และเยียวยา จะพิจารณาอีกครั้งว่าจะเรียกคืนคลื่นฯ ย่าน 2.
92% เป็นแบ่ง 4 งวด งวดที่1 ปี 2557 จำนวน 11, 943 ล้านบาท สัดส่วน 21. 95% งวดที่2 ปี 2558 จำนวน 8, 692 ล้านบาท สัดส่วน 15. 97% งวดที่3 ปี 2559 จำนวน 9, 259 ล้านบาท สัดส่วน 17, 01% งวดที่4 ปี 2560 (คสช. งวดที่1) 5, 434 ล้านบาท สัดส่วน 9. 99% สำหรับยอดคงเหลือที่ต้องชำระ จำนวน 18, 016 ล้านบาท สัดส่วน 33. 10% รวม 5 งวด งวดที่5 (คสช. งวดที่ 2) ปี 2561 จำนวน 5, 144 ล้านบาท สัดส่วน 9. 45% งวดที่6 (คสช. งวดที่ 3) ปี 2562 จำนวน 4, 496 ล้านบาท สัดส่วน 8. 26% งวดที่7 (คสช. งวดที่ 4) ปี 2563 จำนวน 2, 791 ล้านบาท สัดส่วน 5. 13% งวดที่8 (คสช. งวดที่ 5) ปี 2564 จำนวน 2, 791 ล้านบาท สัดส่วน 5. 13% งวดที่9 (คสช. งวดที่ 6) ปี 2565 จำนวน 2, 791 ล้านบาท สัดส่วน 5. 13% ที่มา: สำนักงานกิจการโทรทัศน์ระบบดิจิตอล กสทช. เปิดคำพิพากษาคดีไทยทีวี
ได้พิจารณาความร่วมมือในการรับส่งสัญญาณวิทยุกระจายเสียงในระบบดิจิทัลร่วมกับ กระทรวง ทบวง กรม องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐที่ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ และกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ที่มีความสามารถในการติดตั้งเครื่องรับวิทยุในระบบดิจิทัล กลุ่มผู้ผลิตเครื่องรับวิทยุในระบบดิจิทัล เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านการรับส่งสัญญาณวิทยุกระจายเสียง การทำวิทยุดิจิทัลเป็นภารกิจของ กสท. หลังจากนี้ เนื่องจากในปัจจุบันวิทยุเกิดปัญหา อาทิ การรบกวนวิทยุการบิน การโฆษณาอาหาร ยาและผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมาย ที่สร้างผลเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินแก่ผู้บริโภค โดยในขณะนี้วิทยุในประเทศไทยมีกว่า 7, 000 สถานี โดย กสท. เร่งพยายามดึงผู้ประกอบการให้เข้าสู่กระบวนการกำกับดูแลก่อนเพื่อจัดระเบียบให้เท่ากัน ซึ่งคาดว่าหากเกิดวิทยุดิจิทัล ปัญหาที่กล่าวมาจะหมดไป อย่างไรก็ตามยุคดิจิทัล ก้าวเข้ามาในประเทศไทย การประมูลทีวีดิจิทัลถือเป็นการพลิกวงการทีวีให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการรับข่าวสารหลากหลาย. สุรัสวดี สิทธิยศ ขอขอบคุณแหล่งที่มา: กสทช. จบประมูลทีวีดิจิทัลอู้ฟู่งานต่อไปเตรียมลุยวิทยุดิจิทัล Posts related Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file
จากคำพิพากษา ศาลปกครองกลาง ในคดีพิพาทระหว่าง ไทยทีวี และ กสทช. ที่สรุปใจความสำคัญได้ว่า ผู้รับใบอนุญาตทีวีดิจิทัล "ขอบอกเลิกประกอบกิจการได้" เมื่อบอกเลิกสัญญาแล้วไม่มีหน้าที่ ชำระค่าใบอนุญาตหลังจากบอกเลิก และให้ กสทช. คืนหนังสือค้ำประกันงวดที่เหลือ ในการประมูลทีวีดิจิทัล ช่วงเดือน ธันวาคม 2556 จำนวน 24 ช่อง ได้เงินประมูลรวม 50, 862 ล้านบาท โดยประกาศฯ กสทช. กำหนดให้แบ่งจ่ายเงินค่าประมูลรวม 6 งวด หรือ 6 ปี ทุกเดือน พฤษภาคม หลังจากนั้นในปี 2559 คสช. มีคำสั่ง มาตรา 44 ขยายเวลาจ่ายออกไปอีก 3 ปี รวมเป็นชำระ 9 งวด มาดูกันว่าถึงขณะนี้ ที่มีคำพิพากษา คดีไทยทีวี มาเป็นทางเลือก ให้ผู้รับใบอนุญาต คืนใบอนุญาตได้ โดยไม่ต้องจ่ายเงินงวดที่เหลือ ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ได้จ่ายเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ไปแล้วเท่าไร โดยยอดเงินประมูลทีวีดิจิทัล 24 ช่อง เมื่อรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม จะอยู่ที่ 54, 422 ล้านบาท ปัจจุบันยอดชำระแล้ว 4 งวด อยู่ที่ 35, 330 ล้านบาท คิดเป็น 64. 92% ยอดคงเหลือที่ต้องชำระ อยู่ที่ 18, 016 ล้านบาท คิดเป็น 33. 10% ยอดของบริษัทที่ถูกเพิกถอน (ไทยทีวี) อยู่ที่ 1, 075 ล้านบาท คิดเป็น 1. 98% สำหรับยอดที่ได้รับการชำระแล้ว จำนวน 35, 330 ล้านบาท รวม 64.
ก่อนที่อีกไม่กี่วันคนไทยจะเข้าสู่เทศกาลแห่งความสุขกับปีม้าของคนไทย คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช. ) โดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท. ) ได้มอบของขวัญชิ้นใหญ่ ทีวีดิจิทัล ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงวงการทีวีไทยครั้งประวัติศาสตร์ จากระบบอะนาล็อกมาสู่ระบบดิจิทัล ให้สอดคล้องกับเทรนด์ของโลกยุคดิจิทัล และสร้างผู้ประกอบการฟรีทีวีจากเดิม 6 ช่องเป็นฟรีทีวี 48 ช่อง วันที่ 26-27 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา กสท.
ต้องพิจารณานโยบายด้านโทรคมฯ และแก้ปัญหาทีวีดิจิทัล ไปพร้อมกัน เพราะการดึงคลื่นฯ 700 MHz มาประมูลเพื่อนำเงินไปเยียวยาทีวีดิจิทัล จะต้องกำหนดหลักเกณฑ์ที่ผู้ประกอบการฝั่งโทรคมฯ สามารถดำเนินการและอยู่รอดได้เช่นกัน ขณะที่การช่วยเหลือทีวีดิจิทัล ตามมาตรการที่กำหนดไว้ถึงปี 2565 เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาได้ระยะยาว เพื่อให้ผู้ประกอบการยังอยู่รอดได้ และไม่ต้องปลดพนักงาน ซึ่งการปลดพนักงาน 1 คน หมายถึงครอบครัวที่จะได้รับผลกระทบไปด้วย และหาก กสทช. เข้ามาแก้ปัญหาล่าช้า จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้ ที่ผ่านมา ทีวีดิจิทัล ได้รับผลกระทบจาก " เทคโนโลยี ดิสรัปชั่น " ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหลังการประมูลในปี 2557 อีกทั้งทีวีดิจิทัล ได้ประมูลใบอนุญาตด้วยราคาสูง ขณะที่รายได้ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จึงส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานนับตั้งแต่เริ่มออกอากาศในปี 2557 แต่สื่อทีวียังมีความสำคัญกับสังคมไทย ดังนั้น กสทช. จึงต้องกำหนดนโยบายช่วยเหลือระยะยาว 3. จัดทำแผนและหลักเกณฑ์การอนุญาตสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม เพื่อรองรับมาตรา 60 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ. ศ. 2560 ที่บัญญัติไว้ว่า " รัฐต้องรักษาไว้ซึ่งคลื่นความถี่และสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมอันเป็นสมบัติของชาติเพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชน " ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการแก้ไขพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช. ) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช. ได้ประกาศนโนบายการดำเนินงานปี 2562 โดยกำหนด 5 เป้าหมายประกอบด้วย คือ 1. นโยบายขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 5 G 1. 1. ทบทวนการประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ ด้วยการ Set Zero โทรคมนาคม เพื่อสะท้อนความต้องการคลื่นความถี่ที่สมเหตุสมผล เหมาะสมกับอุตสาหกรรมโทรคมฯและส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล 1. 2. ทบทวนเงื่อนไขและระยะเวลาการชำระเงินค่าประมูลคลื่นความถี่ (Term of payment) ของคลื่นที่ประมูลไปแล้วและที่จะนำมาประมูลใหม่เพื่อสร้างแรงจูงใจในการลงทุนสำหรับภาคเอกชนในการพัฒนาระบบโครงข่ายและนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล 1. 3. ปรับปรุงหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่ ที่จะใช้งานคลื่นความถี่ 5G ใหม่เพิ่มเติมให้เหมาะสมกับรูปแบบการประกอบธุรกิจในยุค 5G โดยแบ่งวิธีการอนุญาตเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ ใบอนุญาตที่ใช้งานครอบคลุมการให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ (Nation Wide) และใบอนุญาตแบบที่ครอบคลุมเฉพาะพื้นที่ที่กำหนด (Specific Area) เช่น ในเขตพื้นที่ภาคการผลิตและอุตสาหกรรม เช่น อีอีซี เพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบการประกอบธุรกิจในยุค 5G 1.