5-37. 2 องศา เซลเซียส หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คืออุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ 37 องศาเซลเซียสนั่นเอง ซึ่งระหว่างวันภูมิของร่างกายอาจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามเกณฑ์อุณหภูมิปกติของร่างกายมนุษย์นั้นสามารถแบ่งตามวิธีการวัดไข้ได้ดังต่อไปนี้ สำหรับอุณหภูมิทางปาก คือ 5-37. 5 องศาเซลเซียส สำหรับอุณหภูมิทางหู คือ 8-38. 0 องศาเซลเซียส สำหรับอุณหภูมิทางทวารหนัก คือ 6- 38 องศาเซลเซียส สำหรับอุณหภูมิทางรักแร้ คือ 7-37. 3 องศาเซลเซียส ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการวัดไข้ใต้ลิ้นหรือการวัดไข้ทางปากอุณหภูมิปกติก็คือ 35. 5- 37. 5 องศาเซลเซียสนั่นเอง วัดไข้ทางปาก หรือ การวัดใต้ลิ้น ใช้เวลากี่นาที การวัดไข้ใต้ลิ้นหากเป็นปรอทวัดไข้แบบแก้วหรือปรอทวัดไข้ธรรมดาทั่วไป ควรใช้ระยะเวลาในการวัดประมาณ 3-4 นาที แต่ในกรณีที่เป็นปรอทวัดไข้แบบดิจิตอล คุณอาจไม่จำเป็นต้องจับเวลาให้ยุ่งยากเพราะปรอทวัดไข้แบบดิจิตอลมีความทันสมัย เพียงแค่รอจนกว่าจะมีสัญญาณดังขึ้น จากนั้นก็ให้นำปรอทแบบดิจิตอลออกจากปาก เพื่อนำมาอ่านค่าหรือตรวจสอบอุณหภูมิได้ในรลำดับต่อไป ปรอทวัดไข้ทางปาก ที่นิยมใช้วัดอุณหภูมิใต้ลิ้น มีกี่แบบ 1.
ใช้น้ำเย็นและสบู่ล้างให้สะอาด (ในกรณีที่วัดทางก้น ให้ใช้เศษผ้าหรือเศษกระดาษอ่อน ๆ เช็ดขี้-ผึ้งหรือสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ออกก่อน ล้างด้วยย้ำและสบู่) 2. ใช้แอลกอฮอล์ที่ใช้เช็ดผิวหนังก่อนฉีดยา (แอลกอฮอล์ 70%) เช็ดปรอทนั้นซ้ำ หลังจากล้างด้วยน้ำเย็นและสบู่แล้ว 3. สลัดให้ลำปรอทลงไปต่ำกว่า 35º ซ และโบกให้แอลกอฮอล์แห้งก่อนที่จะเก็บปรอทไว้ในกล่องใส่ปรอท หรือในที่เดิมของมัน หมายเหตุ: 1) ห้ามแช่ปรอทวัดไข้ในน้ำร้อนหรือน้ำเดือดเพราะจะทำให้ปรอทแตกหรือเสีย และใช้การไม่ได้อีกต่อไป 2) การวัดไข้ควรวัดทุก 2-6 ชั่วโมง ถ้าไม่เป็นการรบกวนคนไข้จนเกินไป ทั้งนี้เพื่อจะเห็นลักษณะการขึ้นลงของคนไข้ ซึ่งจะช่วยในการวินิจฉัยโรคได้ ลักษณะของไข้: นอกจากจะแบ่งอาการไข้ (ตัวร้อน) ออกเป็นไข้ต่ำๆ ไข้ปานกลาง ไข้สูง และไข้สูงมากแล้ว อาการไข้ยังอาจแยกออกเป็นชนิดต่างๆ ซึ่งช่วยให้วินิจฉัยโรคได้ว่าง่ายขึ้น เช่น 1.