นพ. มาโนช หล่อตระกูล ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล คลิกชมคลิปรายการ ""โรคกลัวการเข้าสังคม"(social anxiety): Rama Square ช่วง Daily expert" ได้ที่นี่
จาก "โรคไม่ชอบคำชม" นิตยสาร Spice, August 1999 "ผิวของคุณสวยจัง" "เฮอะ หยาบยังงี้เนี่ยนะ" "ชุดนี้หล่อจัง" "อือ ถ้าคนอื่นใส่" "ผมทรงนี้เท่ระเบิด" "ก็เห็นอยู่ว่าหงอกแล้ว พูดออกมาได้ยังไงวะ" ฯลฯ รู้สึกคุ้นๆ มั๊ยกับคำตอบทำนองนี้?
คุณหวาดกลัวการพูดกับคนที่คุณแอบชอบ เพราะกลัวว่าตัวเองจะพูดอะไรโง่ ๆ ออกไป 14. คุณขอให้ที่บ้านมารับกลับบ้าน เพราะคุณรู้สึกไม่ดีและเบื่อกับการอยู่ท่ามกลางผู้คน 15. คุณทานข้าวกลางวันคนเดียวบนโต๊ะทำงาน เพราะคุณรู้สึกเหมือนในโลกนี้ไม่มีที่สำหรับคุณ 16. คุณพูดคุยทางอินเทอร์เน็ตกับใครสักคนได้หลาย ๆ เรื่อง แต่ไม่กล้าที่จะไปเผชิญหน้ากับเขา เพราะไม่รู้จะคุยอะไร 17. คุณไม่สามารถสร้างมิตรภาพกับเพื่อนใหม่ได้ เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นสนทนากับผู้อื่นอย่างไร 18. คุณไม่อยากออกไปไหนกับเพื่อน ๆ และมักจะอ้างว่าตัวเองป่วยตลอด 19. คุณไม่กล้าทักท้วงกับพนักงานเสิร์ฟ เมื่อเขาเสิร์ฟอาหารให้ผิด 20. คุณไม่ชอบเปิดของขวัญต่อหน้าเพื่อนหรือครอบครัว เพราะไม่อยากให้ใครมาแสดงความคิดเห็นกับของขวัญที่ได้รับ 21. คุณไม่กล้าจะทักทายเพื่อนเก่าสมัยเด็ก ๆ ที่บังเอิญมาพบเจอกันอีกครั้ง เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดกับเขาว่าอย่างไร 22. คุณไม่อยากทำงานเพราะคุณรู้สึกวิตกกังวลในเรื่องการติดต่อประสานงานกับผู้อื่น 23. คุณไม่กล้าที่จะสอบถามพนักงานห้างสรรพสินค้าว่าสินค้าที่คุณกำลังมองหาอยู่ที่ไหน แต่เลือกที่จะเสียเวลาเดินหามันเองมากกว่า 24. คุณเลือกที่จะตอบว่า "ไม่รู้" เพื่อตัดบทสนทนากับคนที่เข้ามาถามเส้นทางไปที่ไหนสักแห่ง แม้ว่าคุณจะรู้เส้นทางนั้นดีก็ตาม 25.
5 สัญญาณบ่งบอกว่าเข้าค่ายโรคสะสมของ เก็บสิ่งของที่ไม่จำเป็นเอามาไว้ในบ้าน และยังเอามาเพิ่มเรื่อยๆทั้งที่ไม่มีที่เก็บ ไม่สามารถตัดสินใจที่จะทิ้งของได้ หรือรู้สึกลำบากใจที่จะทิ้ง แม้ว่าสิ่งของนั้นจะไม่จำเป็นและไม่มีค่าก็ตาม รู้สึกหงุดหงิดใจ ไม่สบายใจเมื่อต้องทำการทิ้งของ มีความคิดและการกระทำที่หมกมุ่น เช่น กลัวว่าถ้าทิ้งสิ่งใดไปแล้ว ในอนาคตจะไม่มีใช้ เมื่อเผลอทิ้งสิ่งใดไปก็จะรีบไปเช็กดูที่ถังขยะแล้วเอากลับคืนมาทันที ไม่ไว้ใจ หวาดระแวงคนอื่นจะมายุ่งกับสมบัติของตน ไม่สามารถดำเนินชีวิตอย่างปกติได้ เช่น แยกตัวออกจากสังคม, มีปัญหากับคนภายในครอบครัว เรื่องการจัดเก็บสิ่งของ ข้อมูลโดย ผศ. พญ.
วันที่ 11 ส. ค. 2561 เวลา 12:06 น.
8 เปอร์เซ็นต์ ชายอีก 44. 2เปอร์เซ็นต์ ผลจากการที่สหรัฐทุบสถิติมีพลเมืองเฟซ บุ๊กสูงสุด ทำให้นักจิตวิทยาแสดงความวิตกกังวลว่า ปัญหาเสพติดเฟซบุ๊ก หรือ FAD อาจทวีความรุนแรงมากขึ้นตามลำดับ ถ้าเล่นเว็บดังแห่งนี้โดยปราศจากความยับยั้งชั่งใจ ข้อห่วงใยดังกล่าวยิ่งตอกย้ำว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ภายหลังบริษัท ออกซิเจนมีเดียและไลต์สปีดรีเสิร์ช ทำแบบสอบ ถามสำรวจพฤติกรรมประชากรสหรัฐ วัยผู้ใหญ่ 1, 605 คน ระหว่างเดือนพ. ค. ถึงมิ. ย. ที่ผ่านมา และพบข้อมูลชวนตกตะลึง ว่า ผู้หญิงยุคใหม่ในสหรัฐที่เติบโตมาพร้อมๆ กับความเจริญของเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตนั้น ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตประจำวัน "ผูกพัน-ผูกติด" กับเฟซบุ๊กอย่างมาก โดยผู้ตอบแบบสอบถาม ซึ่งเป็นผู้หญิงอายุ 18-34 ปี จำนวน 1 ใน 3 ระบุว่า สิ่งแรกที่ทำหลังจากตื่นนอนก็คือต้องเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อเช็กความเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊กก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงค่อยเข้าไปแปรงฟัน ทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ นอกจากนี้ ผู้ตอบร้อยละ 39 ยอม รับว่า รู้สึกว่าตนเองเสพติดการเล่นเฟซบุ๊กเข้าให้แล้ว!
เด็กสินแพทย์ดู เพราะที่นี่เขามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านจิตเวชศาสตร์เด็ก และวัยรุ่นโดยเฉพาะ เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่จะได้คำแนะนำดีๆ จากคุณหมอแน่นอน ลองดูตารางเวลานัดคุณหมอได้เลยค่ะ พบแพทย์เฉพาะทาง ที่ โรงพยาบาลสินแพทย์ สาขาใกล้บ้านคุณ (คลิก link เพื่อนัดพบแพทย์เฉพาะทาง) ด้วยความห่วงใย จาก…โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2793 5000 หรือคลิกแอดไลน์ โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ IDline: @synphaetline แพทย์แนะนำ บทความที่เกี่ยวข้อง บทความยอดนิยม บทความที่ได้รับความสนใจมากที่สุดจาก รพ. สินเพทย์
ความผิดปกติที่แสดงออกทางอารมณ์และความคิด รู้สึกประหม่าและหวาดกลัวทุกครั้งที่ต้องพูดคุยกับคนอื่น หรือพูดไม่ออกเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น วิตกกังวลเป็นอย่างมากว่าคนรอบตัวจะคิดอย่างไรกับตนเองและหวาดกลัวว่า คนรอบตัวจะวิพากษ์วิจารณ์ตนเองไปต่างๆ นาๆ เกิดความเครียดล่วงหน้าเป็นวัน หรือเป็นสัปดาห์ เมื่อรู้ว่า ต้องปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน หรือต้องไปอยู่ในสถานการณ์ที่เจอคนเยอะๆ กลัวว่า ตนเองจะแสดงความขายหน้าออกไปให้คนอื่นเห็น และต้องรู้สึกอับอาย กลัวคนอื่นจะจับสังเกตได้ว่า ตนกำลังรู้สึกประหม่าอยู่ 2. ความผิดปกติที่แสดงออกทางร่างกาย อาย หน้าแดง เขินจนบิด ไม่กล้าสบตา หายใจหอบถี่และเร็ว รู้สึกปั่นป่วนในท้อง บางรายถึงกับอาเจียน เสียงสั่น พูดตะกุกตะกัก ใจเต้นแรง แน่นหน้าอก อยู่นิ่งไม่ได้ เหงื่อออกมาก หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ 3.
โรคกลัวสังคม เป็นอาการป่วยประเภทหนึ่งซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตของผู้ป่วย โดยเฉพาะในด้านหน้าที่การงาน เป็นโรคที่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีการปรับเปลี่ยนความคิดและมุมมองของตนเอง แต่ปัญหาของโรคคือผู้ป่วยหลายรายไม่รู้ว่าตนเองป่วย หรือบางรายไม่เข้าใจและยังสับสนระหว่างความประหม่าธรรมดากับโรคกลัวสังคม ทำให้ไม่มีการดูแลตนเองที่ถูกต้อง โรคกลัวสังคม คืออะไร?