จุดประสงค์ของการนำเสนอของเราคืออะไร? งานนำเสนอของเราจะมีทั้งหมดกี่สไลด์? อะไรคือประเด็นสำคัญที่ต้องเน้นในแต่ละสไลด์? มีเวลาเท่าไรในการนำเสนอข้อมูลนี้? ชอบใช้ข้อความหรือกราฟิกมากกว่ากัน? สีและแบบอักษรใดที่เหมาะกับธีมขององค์กรของเรา มีองค์ประกอบการออกแบบพิเศษ เช่น โลโก้ ไอคอน ฯลฯ ที่ต้องการหรือไม่? กำลังมองหาอะไรที่เรียบง่าย สง่างาม เป็นมืออาชีพ สนุก สร้างสรรค์ ไม่ซ้ำใคร หรือทั้งหมด? ถ้าตอบคำถามทั้งหมดนี้ได้แล้ว เราก็มาดูเทมเพลตสวย ๆ กันได้เลยคร้าบ 10 เทมเพลต Powerpoint สไตล์ Creative สวย ๆ ไม่ซ้ำใครจาก Creative market 1. Business Plan PowerPoint Template 01 business plan powerpoint template Business Plan นำเสนอผลงานของคุณอย่างมืออาชีพและสะอาดด้วยเทมเพลต PowerPoint สไตล์การนำเสนอแบบธุรกิจ ผสมผสานการออกแบบที่เรียบง่าย ร่วมสมัย แต่ทรงพลัง มีเลย์เอาต์ภาพถ่ายที่สร้างสรรค์ ในนี้ยังมีการนำเสนอประเภทอินโฟกราฟิก ตาราง ไอคอนเวกเตอร์ ไดอะแกรม นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมมากมายเพื่อการนำเสนอผลงานและโปรไฟล์บริษัทของคุณไปสู่อีกระดับ ราคา ประมาณ 837 บาท 2. ATHVEUS – Powerpoint Brand Board 02 ATHVEUS Powerpoint Brand Board ATHVEUS นำเสนอการออกแบบเลย์เอาต์ที่เรียบง่ายแต่ไม่เหมือนใครเพื่อให้เข้ากับโปรเจกต์แบรนด์โฆษณาและไอเดียล้ำ ๆ ของคุณ ความคิดสร้างสรรค์ที่ที่ออกแบบในสไลด์การนำเสนอนี้ ถูกออกแบบเพื่อให้ลูกค้าของคุณประทับใจมากที่สุด เทมเพลตนี้เหมาะกับการนำเสนอแบรนดิ้ง ภาพลักษณืของแบรนด์สไตล์ใหม่ ๆ แนว Creative มีความคิดสร้างสรรค์มาก ๆ ครับ ราคา ประมาณ 770 บาท 3.
CAEFFRA – INDD/PPTX Brand Guidelines 03 CAEFFRA INDDPPTX Brand Guidelines CAEFFRA เป็นเทมเพลต Indesign & Powerpoint ออกแบบด้วยแนวคิดที่สะอาด อบอุ่น และเรียบง่าย เหมาะสำหรับการนำเสนองาน Branding ในนทุกสไลด์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ใช่แค่เลย์เอาต์ที่ซ้ำซาก และยังเหมาะสำหรับแนวทางแบรนด์ดิจิทัล เทมเพลตนี้จะเน้นไปที่การนำเสนอแบรนด์ครับ 4. STARTUP – Animated Presentation 04 STARTUP Animated Presentation Startup animated pres entation เทมเพลตการนำเสนอที่เหมาะสำหรับธุรกิจ Startup ตอนนี้คุณสามารถสร้าง Deck ที่ทรงพลังและเป็นมืออาชีพด้วยการออกแบบที่โดดเด่นในเวลาเพียงไม่กี่นาทีแทนที่จะเป็นชั่วโมง เพราะเทมเพลตนี้จะมาพร้อมกับ 70+ เทมเพลต ทั้ง Dark UI และ Light UI แก้ไขง่ายพร้อมแอนิเมตมาให้พร้อม ที่ผมชอบมากคือมีไอคอนเวกเตอร์ประกอบมากกว่า 2, 000+ รายการเลยนะครับ ราคาประมาณ 972 บาท 5.
บาลี วาทานุวาโต ดังนี้ก็มี. อธิบายว่า ตกไปตาม คล้อยตาม เป็นไปตาม. แม้ด้วยบทนี้ เป็นอันท่านแสดงเฉพาะวาทะที่คล้อยตาม วาทะนั่นเอง ในบทว่า อวีตราคสฺส พึงทราบอรรถโดยตัณหานั่นเอง เพราะ ฉะนั้นตัณหาแล ท่านเรียกว่า ราคะ เพราะกำหนัด ว่าฉันทะ เพราะ พอใจ ว่า เปมะ เพราะอรรถว่าประพฤติรักใคร่ ว่าปิปาสาระหาย เพราะอรรถว่าประสงค์จะดื่ม ว่าปริฬาหะรุ่มร้อน เพราะอรรถว่า ตามเผา. ถามว่า เพราะเหตุไร ท่านจึงเริ่มคำเป็นต้นว่า อกุสเล จาวุโส ธมฺเม แก้ว่า เพื่อแสดงโทษของผู้ไม่ปราศจากราคะและอานิสงส์ของ ผู้ปราศจากราคะในขันธ์ ๕. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อวิฆาโต ได้แก่ ผู้หมดทุกข์แล้ว. บทว่า อนุปายาโส ได้แก่ ผู้หมดความเดือดร้อน. บทว่า อปริฬาโห ได้แก่ผู้ไม่มีความรุ่มร้อน พึงทราบความทุกบทดังว่ามานี้. จบ อรรถกถาเทวทหสูตรที่ ๒ ดูเพิ่ม [ แก้ไข] เทวทหสูตร
อรรถกถาเทวทหสูตรที่ ๒ ในเทวทหสูตรที่ ๒ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ เจ้าทั้งหลายท่านเรียกว่า เทวะ สระอันเป็นมงคลของเจ้าเหล่านั้น ชื่อว่า เทวทหะ อีกนัยหนึ่ง สระนั้นเกิดเอง เพราะเหตุดังนี้นั้น ท่านจึงเรียกว่า เทวทหะ นิคมมีอยู่ ในที่ไม่ไกลสระเทวทหะนั้น จึงว่า เทวทหะนั้นแหละโดยเป็นนปุงสกลิงค์ บทว่า ปจฺฉาภูมคามิกา ได้แก่ ผู้ใคร่จะไปยังปัจฉาภูมชนบทที่ตั้งอยู่ใน ทิศอื่นอีก บทว่า นิวาสํ ได้แก่ อยู่จำพรรษาตลอด ๓ เดือน บทว่า อปโลกิโต แปลว่า บอกลา บทว่า อปโลเกถ แปลว่า ขอท่านจงบอกลา ถามว่า เพราะเหตุไร จึงให้พระเถระบอกลา? ตอบว่า เพราะมี พุทธประสงค์จะทำให้ท่านเหล่านั้นมีภาระหน้าที่ จริงอยู่ ผู้ใดแม้เมื่ออยู่ ในวิหารเดียวกันก็ไม่ไปสู่สำนัก เมื่อจะหลีกไป ก็หลีกไปโดยไม่บอกลา ผู้นี้ชื่อว่า นิพฺภาโร ไม่มีภาระ ผู้ใดแม้อยู่ในวิหารเดียวกัน ก็มาพบกันได้ เมื่อจะหลีกจำต้องบอกลา ผู้นี้ชื่อว่ามีภาระ ภิกษุแม้เหล่านี้หาเป็นเช่นนั้นไม่ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระดำริว่า ภิกษุเหล่านี้จักเจริญด้วยคุณ มีศีลเป็นต้น แม้ด้วยอาการอย่างนี้ จึงมีพระพุทธประสงค์จะทรงนำ ภิกษุเหล่านั้น ให้มีภาระหน้าที่ จึงรับสั่งให้บอกลา. บทว่า ปณฺฑิโต ความว่า ผู้ประกอบด้วยความเป็นบัณฑิต ๔ อย่าง มีความเป็นผู้ฉลาด ในธาตุเป็นต้น.
อรรถกถาสนังกุมารสูตร ทุติยวรรคสนังกุมารสูตรที่ ๑ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้:- บทว่า สปฺปีนีตเร ความว่า ที่ฝั่งแม่น้ำชื่อสัปปีนี. บทว่า สนงฺกุ- มาโร ความว่า ได้ยินว่า สนังกุมารพรหมนั้น ในเวลาเป็นปัญจสิขกุมาร เจริญฌานบังเกิดในพรหมโลก เที่ยวไปด้วยเพศกุมารนั่นเอง. เหตุนั้น คนทั้ง หลายจึงจำเขาได้ว่ากุมาร. แต่เพราะเป็นคนเก่า จึงเรียกกันว่า สนังกุมาร. บทว่า ชเนตสฺมึ ได้แก่ในประชุมชน อธิบายว่า ในหมู่ชน. บทว่า เย โคตฺตปฏิสารโน ความว่า ในชุมชนผู้รังเกียจักนี้เรื่องโคตรเหล่านั้น ในโลก กษัตริย์เป็นผู้ประเสริฐที่สุด. บทว่า วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน ความว่า ประกอบ ด้วยวิชชา ๓ มีบุพเพนิวาสานุสสติญาณเป็นต้น โดยปริยายแห่งภยเภรวสูตร หรือวิชชา ๘ คือ วิปัสสนาญาณ มโนมยิทธิอภิญญา ๖ โดยปริยายแห่งอัมพัฏฐ สูตร และด้วยจรณะ ๑๕ ประเภท อย่างนี้ คือ ความเป็นผู้การทำให้บริบูรณ์ ในศีลทั้งหลาย ความเป็นผู้คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย ความเป็นผู้รู้จัก ประมาณในโภชนะ ชาคริยานุโยค สัทธรรม ๗ รูปฌาน ๔. บทว่า โส เสฏฺโฐ เทวมานุเส ความว่า พราหมณ์ผู้เป็นขีณาสพนั้น เป็นผู้ประเสริฐที่สุดคือสูง สุด ในหมู่เทพและหมู่มนุษย์. จบอรรถกถาสนังกุมารสูตรที่ ๑ ดูเพิ่ม [ แก้ไข] สนังกุมารสูตร
ก็ในบรรดา ภิกษุเหล่านั้น ภิกษุเหล่าใดเป็นผู้แก่ เป็นผู้ไข้ หรือยังหนุ่มนัก พระเถระ ก็ให้เอาน้ำมันทาที่เจ็บของภิกษุเหล่านั้น แล้วให้ภิกษุหนุ่มและสามเณร ของตนถือบาตรและจีวร วันนั้นหรือวันรุ่งขึ้นก็พาภิกษุเหล่านั้นไป วันหนึ่งพระศาสดาทรงเห็นท่านผู้นี้แล ไม่ได้เสนาสนะนั่งอยู่ในกลด เพราะมาถึงเวลาวิกาลเกินไป วันรุ่งขึ้นจึงให้ประชุมภิกษุสงฆ์แสดง เรื่องช้าง ลิง และนกกระทา แล้วทรงบัญญัติ สิกขาบทว่า ท่านพึงให้ เสนาสนะตามลำดับผู้แก่. อันดับแรกพระองค์ทรงอนุเคราะห์ด้วยอามิส ด้วยประการฉะนี้ ก็แลพระองค์เมื่อจะทรงโอวาทร้อยครั้งบ้าง พันครั้งบ้าง จนกระทั่งบุคคลนั้นดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล ลำดับนั้นจึง ทรงผละบุคคลนั้นแล้วโอวาทบุคคลอื่น โดยนัยนี้คนทั้งหลายตั้งอยู่ใน โอวาทของพระองค์ผู้ทรงโอวาทอยู่ ก็บรรลุพระอรหัตนับไม่ถ้วน พระองค์ทรงอนุเคราะห์ด้วยธรรมด้วยประการฉะนี้. บทว่า ปจฺจสฺโสสุํ ความว่า ภิกษุเหล่านั้นคิดว่า ผู้นี้ไม่ได้เป็น อุปัชฌาย์ ไม่ได้เป็นอาจารย์ ไม่ได้เป็นเพื่อนเห็นเพื่อนคบกันมา ดังนั้น เราจักทำในสำนักของท่านดังนี้แล้ว มิได้นิ่งเฉยเสีย จึงรับพระดำรัส พระศาสดาว่า อย่างนั้นพระเจ้าข้า. บทว่า เอลคลาคุมฺเพ ได้แก่ ที่โรงที่มุงบังด้วยตะไคร่น้ำ ได้ยินว่า พุ่มตะไคร่น้ำนั้นเกิดในที่มีน้ำขังนานๆ ครั้งนั้นภิกษุเหล่านั้น ทำโรง ๔ เสาในที่นั้น แล้วยกพุ่มตะไคร่น้ำนั้นขึ้นไว้บนโรงนั้น ตะไคร่น้ำนั้น ปิดกั้นโรงนั้น ที่นั้นภิกษุเหล่านั้น จึงก่ออิฐไว้ภายใต้โรงนั้น เกลี่ยทราย ปูลาดอาสนะไว้ ลมอ่อนๆพัดต้องที่พักกลางวันอันร่มเย็น พระเถระนั่ง ในที่นั้น ซึ่งท่านมุ่งหมายกล่าวไว้ว่า ที่พุ่มตะไคร่น้ำ.